ทำงานไม่ดี แบบนี้ควรเปลี่ยนอะไรมากที่สุดคะ?🤔
1.#เปลี่ยนนิสัย 2. #เปลี่ยนงาน
เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า บางครั้งเราพยายามทำงานอย่างเต็มที่แล้ว
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับพบว่า งานที่ทำนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
หรือบางคนก็ทำงานไม่สำเร็จได้ตามเวลาที่ตั้งไว้
ทำให้หมดกำลังใจในการทำงานกันเลยทีเดียว
ซึ่งบางครั้งสิ่งที่ทำให้งานไม่เดินอย่างที่คิดไว้ก็มาจากนิสัยบางอย่างของคนเรานั่นเอง
แต่ถ้าหากอยากให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นละก็ ลองมาดู 7 นิสัยที่ควรทำเพื่อให้งานสำเร็จกันดีกว่า
1. จดเป้าหมายที่ต้องทำแล้วตรวจความคืบหน้าทุกเย็น
นิสัยการทำเช่นนี้ คุณ Daniel Ek ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท Spotify
ได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า
การจดเป้าหมายว่าคุณควรจะทำสิ่งใดสำเร็จบ้างในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ และแต่ละเดือนนั้น จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณไม่ลืมว่ามีสิ่งใดบ้างที่สำคัญ และต้องทำให้เสร็จ ซึ่งคุณสามารถวัดผลและให้คะแนนตัวเองได้ในทุก ๆ เย็น โดยการเช็คลิสต์ดูว่าสิ่งไหนที่ได้ทำสำเร็จไปแล้วบ้าง ตามเป้าหรือไม่
2. แบ่งเวลาสำหรับการออกกำลังกายทุกวัน
คงไม่มีใครที่ปฏิเสธได้ว่า การออกกำลังกายมีผลดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน แต่ในกลุ่มคนที่ต้องทำงานหนัก หรือทุ่มเทกับการทำงาน มักจะตัดเรื่องของการออกกำลังกายออกจากชีวิตไปเป็นสิ่งแรก
ซึ่งในเรื่องนี้ James Clear นักเพาะกายและโค้ชฟิตเนสได้บอกถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายเอาไว้ว่า
การออกกำลังกายนั้นมีผลต่อร่างกายในด้านดี เพราะไม่ว่าจะต้องทำงานมากแค่ไหน หากได้มีเวลาออกกำลังกายทุกวันแล้วละก็ คุณจะสามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม ทานอาหารได้เต็มที่ และดื่มน้ำมากขึ้นจนอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อที่ดีต่อร่างกายโดยตรง
3. การหยุดพักบ้างและหาเวลาออกไปทำกิจกรรมอื่นๆนอกจอคอมพิวเตอร์
การได้หยุดพักจากการทำงาน และใช้เวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่อยู่นอกจากจอโทรศัพท์และจอคอมพิวเตอร์นั้น จะช่วยให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับงาน แถมยังช่วยให้มีสมาธิในการโฟกัสกับงานมากขึ้นด้วย
ซึ่งทางคอลัมนิสต์ชื่อดังอย่าง Carl Richards ก็ได้แนะนำว่า
ควรหาเวลาพักเบรคในระหว่างวัน (เพิ่มจากการพักเที่ยง) ไปมองธรรมชาติ หรือสูดอากาศนอกออฟฟิศดูบ้าง และควรที่จะลาพักร้อนแล้วออกไปเที่ยวชมธรรมชาติเพื่อบำบัดร่างกายบ้างจะช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น
4. ลุยงานยาก ๆ ให้เสร็จก่อนมื้อเที่ยง
ในช่วงเช้าของแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงหลัง 10 โมง คนส่วนใหญ่จะมีพลังงานในการทำงานอย่างเต็มที่ในช่วงนี้ การให้ความสำคัญกับงานที่ยากที่สุด หรือด่วนที่สุดในช่วงเช้าจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณทำงานสำเร็จได้ง่ายขึ้น
โดยคุณ Lep Babauta ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Zen Habits ได้มีมุมมองในเรื่องนี้ว่า
การทำงานที่สำคัญมากที่สุดให้เสร็จได้ตั้งแต่ครึ่งแรกของวัน จะเป็นตัวกำหนดทิศทางว่า ในช่วงครึ่งวันหลังคุณจะเต็มที่กับการทำงานได้มากเพียงใด
5. จดจ่อกับอีเมลล์ที่เพิ่งเข้าเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
หลายคนใช้เวลาจดจ่ออยู่กับอีเมลล์ที่เข้ามาทุก ๆ 10 นาทีเกือบทั้งวัน ซึ่งบางคนก็อ่านจบแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับหรือตอบโต้อีเมลล์ในทันที ทำให้กลายเป็นการสะสมงานให้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่ Brad Smith ซีอีโอจาก Intuit นั้นบอกว่า
ตัวเขาเองใช้เวลาการโต้ตอบทุก ๆ อีเมลล์เพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น หมายความว่าทุกอีเมลล์ที่เขาเปิดอ่านนั้น จะเกิดการตอบกลับในทันที โดยไม่ต้องข้ามไปอีเมลล์อื่นก่อน ซึ่งมันเป็นการฝึกนิสัยที่ทำให้เกิดความมุ่งมั่นในการทำงานได้มากขึ้น
6. ตัดขาดเรื่องงานหลังเลิกงาน
สำหรับเรื่องนี้จะค่อนข้างคล้ายกับการหาเวลาพักเบรคเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน แต่เป็นการสร้างจุดยืนให้กับตัวเองว่า หลังเลิกงานแล้ว จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานอีกเลย ซึ่งมันจะช่วยฝึกนิสัยให้คุณวางแผนชีวิตได้มากขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้เองก็ได้รับการยืนยันจาก
ซีอีโอของ Salesforce ซึ่งคุณ Marc Benioff เองก็ได้ใช้เวลาหลังเลิกงานในการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายอย่างการเล่นไวโอลีน หรือออกกำลังกาย โดยไม่มีการคิดถึงเรื่องงานอีกเลย
7. ตัดสินใจให้เร็วขึ้น
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้การทำงานสะดุดลงก็คือเรื่องของการตัดสินใจที่ล่าช้า หรือยังตัดสินใจไม่ได้ ในขณะเดียวกันเราจะเห็นว่า คนที่มีการตัดสินใจได้รวดเร็วนั้น จะสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายมากกว่า
ซึ่งในมุมมองของ Stephen Gorman ซีอีโอของ Greyhound นั้นก็ได้บอกว่า
การตัดสินใจที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ
“การตัดสินใจที่ไม่ดี นั้นยังดีกว่าการ
ไม่ตัดสินใจจนขาดทิศทางในการทำงาน”
นิสัย อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
สำหรับชีวิตของการทำงาน การก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
ล้วนมาจากนิสัยของเรานั่นเองค่ะ
.
.
#PRTR #PeopleAreKey
#Recruitment #TotalHRSolutions #หาคน #หางาน
.
.
สร้างโปรไฟล์สมัครงาน http://job.prtr.com/user/register
เช็คตำแหน่งงานว่างได้ที่ http://job.prtr.com/
อัพเดทตำแหน่งงานว่างได้ที่ Line@: http://line.me/ti/p/~@prtr
image by unsplash.com