ลองจินตนาการถึงบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ใหม่กำลังเตรียมเปิดตัว ทีมงานภายในทำงานกันอย่างหนักทุกวัน แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้น ระบบไอทีไม่สามารถรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณได้ บริษัทจึงตัดสินใจจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในทันที นี่คือตัวอย่างของ Tactical Outsourcing ที่ช่วยให้บริษัทผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินไปได้
แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทที่จะหยุดแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และเลือกที่จะสร้างพันธมิตรระยะยาวกับทีมงานภายนอกที่สามารถช่วยสร้างกลยุทธ์ในการเติบโตอย่างยั่งยืน นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Strategic Outsourcing ที่ไม่เพียงช่วยประหยัดต้นทุน แต่ยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจในระยะยาว
ดังนั้น การเลือกใช้ outsourcing ไม่ได้มีเพียงแนวทางเดียว การตัดสินใจว่าจะใช้ Tactical หรือ Strategic Outsourcing ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรของธุรกิจ
แล้วคุณล่ะ จะเลือกแบบไหน?
Tactical Outsourcing: การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
Tactical Outsourcing เป็นการว่าจ้างบุคคลภายนอกเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหรือทำงานที่ต้องการในช่วงเวลาสั้น ๆ มักจะเป็นงานเฉพาะด้านที่ไม่มีความซับซ้อนหรือไม่ใช่แกนหลักของธุรกิจ เช่น การจ้างทีมไอทีภายนอกมาช่วยแก้ไขปัญหาระบบเฉพาะหน้า หรือการว่าจ้างเอเจนซี่ทำโฆษณาแคมเปญสั้น ๆ สำหรับโปรโมชันในระยะสั้น
ลักษณะของ Tactical Outsourcing คือการตอบโจทย์ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องผูกพันกับบริษัทภายนอกในระยะยาว มันเหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องการลงทุนด้านทรัพยากรภายในที่มากเกินไปในงานเฉพาะกิจ
เช่น บริษัทของคุณ มีปัญหาระบบ IT ที่ทำงานช้าในช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัทจึงตัดสินใจจ้างทีมไอทีภายนอกเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน นี่คือตัวอย่างของ Tactical Outsourcing ซึ่งบริษัทไม่ต้องการสร้างทีมไอทีภายในของตัวเอง เพียงแค่ต้องการแก้ปัญหาชั่วคราว
Strategic Outsourcing: การสร้างพันธมิตรระยะยาว
ในทางกลับกัน Strategic Outsourcing คือการว่าจ้างบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญในงานสำคัญ เป้าหมายคือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่มีผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจ มักใช้กับงานที่ซับซ้อนและต้องการความร่วมมือในการวางกลยุทธ์ เช่น การจ้างบริษัทภายนอกมาดูแลการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หรือพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจ
สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง Strategic Outsourcing กับ Tactical Outsourcing คือความร่วมมือในระยะยาวที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจมากกว่าการแก้ปัญหาในระยะสั้น
เช่น บริษัทของคุณ ต้องการพัฒนาแพลตฟอร์ม e-commerce ที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจในระดับสากล จึงเลือกจ้างบริษัทเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญมาทำงานในระยะยาวเพื่อสร้างและพัฒนาแพลตฟอร์ม การเลือกใช้ Strategic Outsourcing ในกรณีนี้ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดต้นทุนด้านทรัพยากร แต่ยังช่วยให้บริษัทสามารถโฟกัสกับกลยุทธ์ธุรกิจหลักได้ดีขึ้น
ความแตกต่างสำคัญระหว่าง Tactical Outsourcing และ Strategic Outsourcing
- ระยะเวลา: Tactical Outsourcing มุ่งเน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วน Strategic Outsourcing เป็นความร่วมมือระยะยาวที่ช่วยเสริมสร้างธุรกิจ
- เป้าหมาย: Tactical Outsourcing ใช้ในงานที่ไม่ใช่แกนหลัก ขณะที่ Strategic Outsourcing มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับองค์กร
- ความซับซ้อน: Tactical Outsourcing เหมาะกับงานที่ไม่มีความซับซ้อนมาก ในขณะที่ Strategic Outsourcing เหมาะกับงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญสูง
การเลือกใช้ Outsourcing ให้เหมาะสมกับธุรกิจ
การเลือกว่าจะใช้ Tactical หรือ Strategic Outsourcing ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรของบริษัท หากธุรกิจต้องการการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและงานที่ไม่ซับซ้อน Tactical Outsourcing เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการสร้างพันธมิตรที่มีผลต่อการเติบโตในระยะยาว Strategic Outsourcing คือคำตอบที่ควรพิจารณา
อย่างไรก็ดี หากคุณประเมินแล้วว่าต้องการผสมผสานทั้ง Tactical และ Strategic Outsourcing ก็ย่อมได้ เพียงแต่คุณ อาจต้องเลือกผู้ให้บริการขนาดใหญ่และมีประสบการณ์ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความเร็วในการหาและจัดการคน และความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาได้ในคราวเดียวกัน
Reference: https://www.yourteaminindia.com/blog/difference-between-tactical-strategic-outsourcing