ในโลกธุรกิจที่หมุนไปด้วยความเร็วสูง มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ “คน” แต่วิธีการที่เราได้มาซึ่ง “คนคุณภาพ” หรือที่เรียกว่าการทำ “recruitment” นั้น กำลังเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อ ‘คน’ คือหัวใจของธุรกิจ แต่ ‘recruitment’ กลับยากกว่าที่คิด
หลายคนอาจนึกภาพ recruitment ว่าเป็นเพียงการโพสต์ประกาศรับสมัครงานแล้วนั่งรอให้ประวัติหลั่งไหลเข้ามา แต่ความจริงแล้ว มันซับซ้อนกว่านั้นมาก โดยเฉพาะในยุคที่คนรุ่นใหม่มีทางเลือกมากขึ้น และความต้องการของตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่หลายคนตามทัน
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังทำตามหา ‘เพชร‘ ในทะเลทรายกว้างใหญ่ ทุกเม็ดทรายดูแทบจะเหมือนกันหมด แต่คุณต้องการเพียงเม็ดเดียวที่จะเปล่งประกาย นั่นแหละคือสิ่งที่นัก recruitment กำลังเผชิญอยู่ทุกวัน
Recruitment แบบเดิมๆ ไม่ได้ผลอีกต่อไป
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน วิธีการ recruitment ก็ต้องเปลี่ยนตาม การโพสต์ประกาศรับสมัครงานแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป บริษัทชั้นนำหลายแห่งเริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น บริษัทเทคโนโลยีอาจใช้การจัดการแข่งขันแก้ปัญหาโค้ดดิ้งออนไลน์ โดยผู้ชนะจะได้รับการพิจารณารับเข้าทำงาน นี่ไม่ใช่แค่การหาคนเก่ง แต่เป็นการค้นหาคนที่มีใจรักและพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับงานจริงๆ อีกด้วย
หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น การใช้ AI วิเคราะห์โปรไฟล์ LinkedIn เพื่อค้นหาผู้สมัครที่มีศักยภาพ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กำลังมองหางานอยู่ก็ตาม แต่เป็นการเพิ่มการเข้าถึงและยื่นข้อเสนอที่อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ได้คนเก่งเข้ามาร่วมงานเร็วกว่าเดิม เรียกว่าทำให้กระบวนการสรรหากลายเป็นเกมรุกมากกว่าเกมรับ
แล้วอะไรคือกุญแจสำคัญของ recruitment ในยุคนี้?
- เข้าใจคนรุ่นใหม่: Gen Z และ Millennials ไม่ได้ต้องการแค่เงินเดือนสูงๆ พวกเขาต้องการความหมายในงาน ต้องการเติบโต และต้องการสมดุลชีวิต การสื่อสารถึงคุณค่าและวิสัยทัศน์ขององค์กรจึงสำคัญไม่แพ้การเสนอผลตอบแทนในกระบวนการ recruitment
- ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด: AI, Big Data, หรือแม้แต่ VR สามารถนำมาประยุกต์ใช้ใน recruitment ได้ แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
- สร้าง employer branding: ในยุคที่ข้อมูลหาได้ง่าย ผู้สมัครมักจะ ‘เช็คข้อมูล‘ บริษัทก่อนตัดสินใจสมัคร การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงสำคัญไม่แพ้การโฆษณาสินค้า
- มองหาศักยภาพ ไม่ใช่แค่ประสบการณ์: ในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ทักษะที่จำเป็นวันนี้อาจล้าสมัยในอีก 5 ปีข้างหน้า การสรรหาโดยมองคนที่พร้อมเรียนรู้และปรับตัวจึงสำคัญกว่าการหาคนที่มีประสบการณ์ตรงเป๊ะ
สรุป
Recruitment ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปหากรู้จักปรับตัว องค์กรที่เข้าใจว่า ‘คน’ คือหัวใจของความสำเร็จ และพร้อมที่จะลงทุนทั้งเวลาและทรัพยากรในการทำ recruitment เพื่อหา ‘คนใช่’ จะเป็นผู้ชนะในสนามแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือดนี้
ท้ายที่สุด recruitment ไม่ใช่แค่การเติมช่องว่างในแผนผังองค์กร แต่เป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของธุรกิจ ดังนั้น จงทำมันอย่างรอบคอบ และสร้างสรรค์
