หลายองค์กรคิดว่าการสรรหาพนักงานเป็นแค่เรื่องของการหาคนมาทำงานให้ครบตามตำแหน่งที่ว่าง แต่ความจริงแล้ว การทำ recruitment ที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้นอาจทำให้องค์กรต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งการเสียเวลา เสียทรัพยากร และที่สำคัญ อาจดึงดูดคนที่ไม่เหมาะสมมาทำงาน นำไปสู่อัตราการลาออกที่สูง และบรรยากาศการทำงานที่ย่ำแย่
ลองนึกภาพว่า กระบวนการสมัครที่ยุ่งยาก การสื่อสารที่ขาดประสิทธิภาพ หรือการสัมภาษณ์ที่ไม่ได้ดึงข้อมูลที่สำคัญเพื่อดูความเหมาะสมของพนักงานกับวัฒนธรรมองค์กร จะทำให้พนักงานที่เข้ามาทำงานนั้น “ไม่ใช่” สำหรับทีมงานที่มีอยู่ และในท้ายที่สุด การรับพนักงานที่ไม่เหมาะสมทำให้บริษัทต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการสรรหาใหม่อยู่เรื่อยๆ
Recruitment ที่มีประสิทธิภาพ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง?
กลยุทธ์การสรรหาที่ชัดเจน
- กำหนดเป้าหมายและ KPIs ที่ชัดเจน: วางแผนกลยุทธ์และเป้าหมายการสรรหาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังดึงคนที่เหมาะสมเข้ามา
- วิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย: รู้จักลักษณะเฉพาะของผู้สมัครที่คุณต้องการ รวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็น
- เลือกช่องทางการสรรหาที่เหมาะสม: เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์, เครือข่ายสังคม หรือการใช้งานพนักงานปัจจุบันช่วยในการสรรหา
สร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้สมัคร
- ออกแบบกระบวนการสมัครที่ง่ายและสะดวก: กระบวนการสมัครควรเป็นมิตรและไม่ซับซ้อน
- สื่อสารอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ: บอกสถานะของกระบวนการให้ผู้สมัครทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขารู้สึกได้รับการเอาใจใส่
- ให้ feedback : แม้ผู้สมัครจะไม่ผ่านการคัดเลือก แต่การให้ feedback ที่ตรงไปตรงมาก็จะช่วยให้พวกเขาประทับใจและรู้สึกว่าองค์กรของคุณนั้นจริงใจ
การใช้เทคโนโลยีช่วยในกระบวนการ
- ใช้ Applicant Tracking System (ATS): ระบบจัดการข้อมูลผู้สมัครแบบอัตโนมัติ ช่วยลดความซับซ้อนและประหยัดเวลาในการสรรหา
- นำ AI และ Machine Learning มาช่วยในการคัดกรองผู้สมัคร: เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาผู้ที่เหมาะสมที่สุดจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่
- ใช้ Data Analytics: การวิเคราะห์ข้อมูลจากการสรรหาที่ผ่านมา ช่วยให้คุณปรับปรุงกระบวนการได้อย่างต่อเนื่อง
ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย
- กำหนดนโยบายด้านความหลากหลายที่ชัดเจน: การมีทีมงานที่มีความหลากหลายจะช่วยสร้างนวัตกรรมและมุมมองที่แตกต่างในการทำงาน
- ใช้ภาษาที่เป็นกลาง: ประกาศรับสมัครงานที่ปราศจากอคติ ช่วยให้การสรรหามีความยุติธรรมมากขึ้น
- ฝึกอบรมทีม recruitment เพื่อลดอคติ: กระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใส และเป็นธรรมส่งผลต่อการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง
ใช้ความร่วมมือภายในองค์กร
- สร้างความร่วมมือระหว่างฝ่าย HR และหัวหน้างาน: การทำงานร่วมกันของ HR และหัวหน้างานช่วยให้การสรรหามีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ให้ทีมงานมีส่วนร่วมในกระบวนการคัดเลือก: พนักงานปัจจุบันอาจเป็นผู้ช่วยที่ดีในการคัดกรองผู้สมัครและแนะนำคนที่เหมาะสม
- พัฒนาโปรแกรม Employee Referral: ให้พนักงานปัจจุบันช่วยแนะนำบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน
สื่อสารแบรนด์นายจ้างอย่างมีประสิทธิภาพ
- สร้าง Employer Value Proposition (EVP): สร้างข้อความที่ชัดเจนว่าทำไมผู้คนถึงควรมาร่วมงานกับองค์กรของคุณ
- ใช้ Content Marketing: การเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรและสภาพแวดล้อมการทำงานเพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถ
- ส่งเสริมให้พนักงานเป็น Brand Ambassador: ให้พนักงานเป็นกระบอกเสียงที่ช่วยดึงดูดคนดีๆ เข้ามา
วัดผลและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- กำหนด Metrics ที่สำคัญ: เช่น Time-to-Hire, Cost-per-Hire, Quality of Hire เพื่อประเมินความสำเร็จของการสรรหา
- จัดทำ Surveys เพื่อรวบรวมข้อมูลป้อนกลับ: นำข้อมูลจากผู้สมัครและผู้จัดการมาปรับปรุงกระบวนการ
- วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการสรรหาอย่างสม่ำเสมอ: การเปลี่ยนแปลงที่เล็กๆ น้อยๆ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
ผลของการปล่อยให้ Recruitment ไม่มีประสิทธิภาพ
เมื่อองค์กรละเลยการสรรหาที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาหลายอย่างจะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียทรัพยากรที่สำคัญ หรือการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาของผู้สมัคร ต่อไปนี้คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
- ต้นทุนสูงขึ้น: การสรรหาที่ไม่ดีทำให้องค์กรต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นกว่าจะหาคนที่ใช่ได้
- คุณภาพของพนักงานลดลง: ได้พนักงานที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือวัฒนธรรมองค์กร ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
- อัตราการลาออกสูง: พนักงานที่ไม่เหมาะสมหรือไม่พึงพอใจมีแนวโน้มจะลาออกเร็ว ทำให้ต้องสรรหาคนใหม่อยู่เรื่อยๆ
- ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย: ผู้สมัครที่ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีมักจะเผยแพร่ประสบการณ์นี้ต่อผู้อื่น ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสียหาย
- ขาดความได้เปรียบในการแข่งขัน: องค์กรที่ไม่สามารถดึงดูดผู้มีความสามารถมาร่วมงานจะขาดทรัพยากรที่จำเป็นในการเติบโตและพัฒนา
- วัฒนธรรมองค์กรเสื่อมถอย: พนักงานที่ไม่เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรอาจทำให้บรรยากาศการทำงานแย่ลง
- ขาดนวัตกรรมและการเติบโต: เพราะขาดบุคลากรที่มีความสามารถหรือมุมมองที่หลากหลาย ส่งผลให้การพัฒนาและนวัตกรรมในองค์กรช้าลง
การให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการ recruitment อย่างต่อเนื่อง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะเมื่อองค์กรมีพนักงานที่ดีและมีประสบการณ์ที่ดี นั่นคือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อความสำเร็จและการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
