ใครจะเชื่อว่าจากเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งจะกลายมาเป็นผู้กำหนดทิศทางของโลกและสร้างตัวเองให้เป็นมหาเศรษฐีได้ในวัยไม่ถึง 30 ปี
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กนั่นเอง
จากจุดเริ่มต้นเพียงแค่ต้องการพื้นที่ในการเก็บและแชร์ข้อมูลรูปภาพต่าง ๆ เพื่อให้เพื่อนในรุ่นทุกคนสามารถเข้าไปดูได้
กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแพลตฟอร์มยอดฮิตถล่มทลายอย่างเฟซบุ๊กทุกวันนี้
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นความบังเอิญหรือเป็นเรื่องของจังหวะเวลาพอดี แต่หลายเรื่องที่มาร์กและเพื่อนทำมาตลอด
ก็ทำให้เชื่อได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่ใครคิดแน่นอน
เคยมีคนสัมภาษณ์เขาว่า เคล็ดลับความสำเร็จในชีวิตของเขาคืออะไร และนี่คือคำตอบของ 1 ในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของยุคตอนนี้ค่ะ
1. เอาชนะคนที่เคยดูถูกให้ได้ โดยเฉพาะแฟนเก่า!
สมัยตอนเรียนมาร์กเคยโดนแฟนทิ้งเพราะทำตัวเละเทะมาก โดนตราหน้าว่าเป็นพวกที่ไม่มีวันประสบความสำเร็จแน่นอน มาถึงตอนนี้หล่อนคงเสียดายที่ไม่ให้โอกาสเขาได้ปรับปรุงตัว
2. อย่าปล่อยให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักคุณดี มาทำลายจุดยืนของคุณเอง
ถ้าใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง The Social Network จะรู้ว่ามาร์กเป็นคนไม่ค่อยแคร์สังคมเท่าไหร่ว่าใครจะคิดยังไงกับเขา ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้ก็เป็นคุณสมบัติของคนดังและคนที่ประสบความสำเร็จหลายคน เลยค่ะ
3. ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ
ข้อนี้ผู้เขียนคิดว่ามาร์กน่าจะได้ตัวอย่างมาจากไอดอลและแรงบันดาลใจตลอด กาลของเขาอย่างสตีฟ จ๊อบส์มาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะหนึ่งในคำพูดที่จ๊อบส์พูดอยู่เป็นประจำก็คือ
ทางเดียวที่จะทำงานที่ดีได้ คือรักในสิ่งที่คุณทำ ถ้าหายังไม่เจอ ก็อย่าหยุดที่จะหามันต่อไป
4. เมื่อเจออุปสรรค หัวหน้าที่ดีต้องปลุกยักษ์ที่ซ่อนอยู่ในตัวลูกน้องและคนรอบข้างได้
ผู้นำที่ดีต้องมีทักษะในการปลุกพลังทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง ถ้าผู้นำเองยังไม่กล้าลงมือ จะคาดหวังให้ลูกน้องทุ่มเทพลังให้กับองค์กรคงเป็นไปได้ยาก
5. ไม่ว่าจะลงมือตัดสินใจทำอะไร ให้แน่ใจว่ามันเกิดจากความต้องการของเราอย่างแท้จริง
นอกจากตัวเองและเพื่อนร่วมงานในทีม มาร์กเคยกล่าวว่า คนอื่นอย่าหวังว่าจะมามีอิทธิพลต่อชีวิตของเขา
6. อย่าเสียงานเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อน
มาร์กสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมากับเพื่อนอีกหลายคน แต่ท้ายสุดแล้วการทำงานก็ไม่ได้ลงรอยกันไปเสียทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมคือเขาสามารถหาจุดลงตัวให้งานเดินต่อไปได้
7. อยากประสบความสำเร็จต้องกล้าฝัน และกล้าลงมือทำมันขึ้นมา
เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะ 10 หรือ 100 ประโยคของคนดังแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับเราลงมือทำด้วยตัวเอง
ต่อให้คนที่เก่งที่สุด รวยที่สุด หรือฉลาดที่สุดมาพูดให้ฟังต่อหน้าเรา แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำเสียอย่าง
สิ่งที่ฟังหรืออ่านมาก็ไม่ต่างกับบทความก่อน ๆ ที่แชร์ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
และสิ่งที่คุณต้องการนั้นก็ยังเป็นเพียงความต้องการที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปค่ะ
มีความสุขกับวันทำงานนะคะทุกคน
Have a nice day ka!!!
#PRTR