เสพติดดราม่า คือยาแก้เครียดจากการทำงานจริงหรือ?
ถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่จะสามารถเสพข่าวได้อย่างรวดเร็วทันใจ และสามารถอ่านข่าวได้ตลอดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอย่างไร นั่นก็เพราะมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ง่ายต่อการเข้าถึงอย่างสมาร์ทโฟนั่นเอง
โดยข่าวที่คนส่วนมากจะชอบอ่านแล้วติดตามกันมากที่สุดก็คือ ‘ข่าวดราม่า’ นั่นเอง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้ว การติดตามข่าวดราม่ามากจนเกินไปไม่ได้เป็นผลดีมากกว่าผลเสียมากมายเลยทีเดียว ลองไปดูกันว่าจะมีข้อเสียในด้านไหนกันบ้าง
ข่าวดราม่านั้นเป็นข่าวที่ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ชอบอ่านหรือติดตามกัน
เพราะในอเมริกาเองก็มีการทำผลสำรวจออกมาพบว่า กว่า 169 ล้านคนในประเทศ นิยมอ่านข่าวในช่วงเช้า 8:00 – 9:00 น. ของทุกวัน แถมข่าวที่อ่านนั้นยังป็นข่าวที่หนักไปทางดราม่าเสียส่วนใหญ่อีกด้วย
และข่าวที่มักจะอ่านกันเป็นอันดับแรก ๆ ของวันเลยก็คือ ข่าวดราม่า ทั้งการเมือง, ดารา, สภาพอากาศ และข่าวสังคมต่าง ๆ
ซึ่งก็มีการทำวิจัยในสหรัฐอเมริกาโดยนักวิจัยที่ชื่อคุณ Shawn Achor กับเพื่อนอีกสองคนคือ Michelle Gielan และ Arianna Huffington พบว่า..
เพียงแค่การเสพข่าวที่มีเนื้อหาเคร่งเครียดเพียงแค่ 3 นาทีในตอนเช้า จะสามารถทำให้อารมณ์ของคนอ่านนั้นแย่ลงไปได้ทันที
แถมยิ่งเป็นข่าวที่เครียดมากขึ้น ก็ยิ่งมีผลทำให้อารมณ์แย่ไปได้ทั้งวันเลยทีเดียว
นอกจากเรื่องของอารมณ์ที่แย่ลงแล้ว การเสพข่าวดราม่าแบบเกาะติดในช่วงเช้าระหว่างเดินทาง ก่อนเข้างานนั้นก็ยังสร้างความรู้สึกไม่อยากทำงาน เบื่อหน่าย รวมทั้งเครียดมากขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย เรียกได้ว่าการที่คนเราเสพติดความดราม่านั้นไม่ได้เป็นผลดีเลยทีเดียว
ซึ่งทางนักวิจัยเองก็ได้แนะนำว่า ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคข่าวบ้าง
เพื่อลดปัญหาทางด้านอารมณ์ จากการเสพข่าวในแต่ละวันลงไป โดยวิธีที่จะช่วยให้ลดพฤติกรรมของการเสพติดข่าวอย่างจริงจังได้นั้นมีดังนี้
1. ตั้งโหมดปิดเสียงและคว่ำหน้าจอลงเมื่ออยู่บนโต๊ะทำงาน
วิธีนี้จะช่วยให้เกิดความรู้สึกสนใจมือถือน้อยลง แถมยังรู้สึกอยากจะทำสิ่งอื่น ๆ ที่อยู่ตรงหน้าให้เสร็จเสียก่อนค่อยเล่นมือถือเพื่ออ่านข่าวดราม่าน้ำตาเล็ดได้
2. เข้าฟีดหน้าFacebookให้น้อยลง
วิธีการหลีกเลี่ยงข่าวดราม่าได้ดีที่สุดวิธีหนี่งเลยก็คือ การหลีกเลี่ยงที่จะปัดฟีดบนเฟสบุ๊คเมื่อว่างหรือไม่รู้จะทำอะไร
และเมื่อต้องเปิดจริง ๆ ก็เปลี่ยนจากการหาข่าวดราม่า มาเป็นเรื่องของเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวแทน
3. เปลี่ยนจากการมองหน้าจอเป็นมองธรรมชาติหรือสิ่งอื่นรอบตัว
เมื่อมีเวลาว่าง หรือไม่รู้ว่าจะมองอะไรดี ให้ลองปรับเปลี่ยนจากการมองหน้าจอมาเป็นมองสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว
เช่น ออกไปเดินเล่นสักพัก หรืออ่านหนังสือนิยาย เรื่องสั้น หรือนิตยสารอื่น ๆ แทนก็ช่วยได้
4. ออกกำลังกายเบาๆหลังทานอาหารเสร็จ
หลังจากทานมื้อกลางวันเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะใช้เวลาที่เหลือในการเปิดมือถือ ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นกรออกกำลังกายเบา ๆ เช่น กายบริหารเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเดินขึ้นลงบันไดอย่างช้า ๆ ก็ช่วยให้ห่างจากการเสพข่าวดราม่าได้เหมือนกัน
ใครที่มักมีปัญหาในเรื่องของอารมณ์ หรือไม่มีสมาธิในการทำงาน เพราะมัวสนใจข่าวดราม่าอยู่ล่ะก็ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู เพื่อที่จะได้มีสมาธิและไม่ตกเป็นทาสของการเสพติดข่าวดราม่าอีกต่อไป
.
.
#PRTR #PeopleAreKey
#Recruitment #TotalHRSolutions #หาคน #หางาน
.
.
สร้างโปรไฟล์สมัครงาน http://job.prtr.com/user/register
เช็คตำแหน่งงานว่างได้ที่ http://job.prtr.com/
อัพเดทตำแหน่งงานว่างได้ที่ Line@: http://line.me/ti/p/~@prtr
image by freepik.com
